Select Page

สำหรับ เกมไพ่แบล็คแจ็ค ( Blackjack ) หรือ เกมไพ่ 21 นั้น ต่างก็เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นเกมเดิมพันออนไลน์ Gclub อีกหนึ่งเกมที่เล่นได้ง่ายๆ และได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสุดๆ โดยการรวมไพ่บนมือให้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มกว่าแต้มไพ่ของเจ้ามือ(Dealer) โดยต้องไม่เกิน 21 แต้ม

ในเกมไพ่แบล็คแจ็ค (Blackjack) นั้นไพ่เอซ (Ace) จะถูกนับเป็น 1 แต้ม หรือ 11 แต้มก็ได้ ส่วน คิงส์ ควีน แจ็ค นับเป็น 10 แต้ม ส่วนไพ่ใบอื่นๆนับแต้มตามจำนวนหน้าไพ่ และที่สำคัญผู้เล่นเองก็ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่จะกดปุ่ม Hit เพื่อเรียกไพ่และเมื่อไหร่จะกดปุ่ม stand เพื่อการตัดสินแพ้ชนะ ดังนั้นวันนี้เราจึงนำสิ่งที่นักเดิมพันควรรู้ในการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็คมาให้ได้เรียนรู้กัน ดังนี้

การเดิมพัน เกมไพ่แบล็คแจ็ค

1. การอยู่ และจั่วไพ่ (Stand & Hit)
การอยู่และการเรียกไพ่เป็นพื้นฐานของการเล่นแบล็คแจ็ค โดยในกรณีที่เราแต้มไม่ถึงหรือเกิน 21 แต้มนั้น เราจะมีสิทธิ์เรียกไพ่ได้เรื่อยๆ ซึ่งการเรียกไพ่เพิ่ม คือ จั่ว หรือ Hit และหยุดเรียกเมื่อพอใจ เรียกว่า อยู่ หรือ Stand นั่นเอง

2. 21 แต้ม หรือ การได้ Blackjack
เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของเรารวมกันได้ 21 แต้ม จะเรียกว่า แบล็คแจ็ค และได้เงินรางวัล 1.5 เท่า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวางเงินเดิมพัน 100 บาท จะได้กำไรเป็นเงิน 150 บาทไม่รวมทุน ในรอบนั้นๆ ทันที ก็จะคล้ายๆ กับการเล่นป๊อกเด้ง เมื่อชนะก็จะได้รับเงินทันทีนั่นเอง

3. การแทง 2 เท่า ( Double Down )
นักเดิมพันสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้อีก 1 เท่า จากตัวอย่างข้างบน เช่น เมื่อเราขอแยกไพ่แล้ว
มือที่ 1 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 บาท เราสามารถเพิ่มเดิมพันเป็น 200 บาท ได้ แต่ว่ามีสิทธิเรียกไพ่ได้อีกแค่ใบเดียวเท่านั้น หากว่าเราแต้มมากกว่าเจ้ามือ เราจะได้อัตราจ่าย 1 : 1 เท่านั้น

4. การแยกไพ่ ( Split )
เมื่อเราได้ไพ่ 2 ใบเหมือนกัน เราสามารถแยกไพ่ได้หมายความว่า เราจะวางเดิมพันเป็น 2 มือ เช่น เดิมพันที่ 100 ได้ เมื่อเราได้ไพ่ Q กับ Q เราสามารถแยกไพ่ได้ แต่ต้องวางเดิมพันเท่าเดิม จะกลายเป็น มือที่ 1 ได้ไพ่ Q วางเดิมพัน 100 บาท และ มือที่ 2 ได้ไพ่ Q วางเดิมพัน 100 บาท
จากนั้นก็จะแจกไพ่ต่อตามปกติ แต่หากว่าเราได้ไพ่ 21 จะไม่นับเป็น แบล็คแจ็ค หากว่าเจ้ามือได้ 21 แต้ม จะถือว่าไม่เสมอ และเราจะแพ้เดิมพัน หากว่าเราแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราจ่าย 1 ต่อ 1

5. เดิมพันไพ่ประกัน ( Insurance )
ในกรณีที่เจ้ามือเปิดไพ่ใบแรก เป็น A ซึ่งมีค่าเท่ากับ 11 แต้ม หรือ 1แต้มก็ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เราสามารถขอวางเงินประกันได้ โดยวางได้ครึ่งเดียวจากเงินเดิมพันที่วางไปแล้ว เช่นวางเดิมพัน 100 บาท ก็สามารถขอวางเงินประกันได้แค่ 50 บาท เท่านั้น เมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบที่ 2 ได้ 10 แต้ม
เมื่อรวมแต้มแล้วจะได้เท่ากับ แบล็คแจ็ค หรือ 21 แต้ม เราจะชนะเดิมพัน และได้เงินรางวัลจากค่า 2 เท่า นั่นคือ วางค่าเงินประกัน 50 บาท จะได้ 100 บาทไม่รวมทุน หากว่าเจ้ามือไม่ออก แบล็คแจ็ค เราจะเสียเงินประกัน และเกมดำเนินต่อ

นี่ถือเป็นเคล็ดลับสิ่งที่ นักเดิมพัน ควรรู้ในการเดิมพัน เกมไพ่แบล็คแจ็ค เพื่อให้มีโอกาสเป็นผู้ชนะมากที่สุด เพราะทุกเกมคาสิโนออนไลน์ นักพนันควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเกมการเล่นให้มากๆ จะได้มีช่องทางการสร้างเงินได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องงมเล่นเอง มันหมดยุคบ่อนคาสิโนแล้ว เพราะการเล่นเดิมพันกับทางคาสิโนออนไลน์ นักเดิมพันสามารถเปิดโพย หาสูตร เคล็ดลับหรือเทคนิคต่างๆ ช่วยในการเล่นได้อย่างสบาย เพราะคาสิโนออนไลน์เปิดโอกาสให้นักเดิมพันทั่วโลกได้สร้างเงินได้อย่างเต็มที่นั่งเอง